![]() |
สู่เส้นทางมนุษย์เงินเดือนสมัยใหม่
เท่าไหนถึงเรียกว่ารวย? เถียงกันให้ตายก็ไม่จบครับ บางคนบอกต้องมี 10ล้าน
บางคนบอกต้องมี 100 ล้าน เอางี้ดีกว่า ผมขอใช้คำว่าอิสรภาพทางการเงินดีกว่าครับ
เริ่มจากคำนิยามของคำว่าอิสรภาพทางการเงินหรือ Financial Freedom กันก่อน ตามการตีความของผมนั้น
ความหมายก็คือการมีรายได้ที่มาจากสินทรัพย์ (Passive Income)
มากกว่ารายจ่ายในแต่ละเดือนครับ ซึ่งหากยึดตามความหมายนี้แล้ว หมายความว่า
หากเราหยุดทำงานไป เราก็ยังมีรายได้ครอบคลุมการใช้จ่ายในทุกๆเดือนนั่นเอง การบอกว่าการเป็นมนุษย์เงินเดือนไม่มีทางมีอิสรภาพทางการเงินนั้น
ต้องบอกว่าเป็นการเข้าใจที่ผิดไปเยอะเหลือเกินครับ
การจะบรรลุอิสรภาพทางการเงินได้นั้น
การออกมาทำธุรกิจของตนก็ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจครับ
เพราะถือเป็นการลงทุนสร้างสินทรัพย์ล้ำค่าอย่างหนึ่ง ซึ่งก็คือตัวธุรกิจนั่นเอง
แต่หากขาดการวางแผนที่ชัดเจน แทนที่จะได้มีอิสรภาพทางการเงิน
กลายเป็นว่าต้องเป็นหนี้หัวโตได้เหมือนกัน
สิ่งที่ผมต้องการจะสื่อก็คือ
ไม่ว่าจะทำอะไรก็แล้วแต่ ต้องมีการวางแผน ศึกษาหาข้อมูลอย่างละเอียด
มีเป้าหมายที่ชัดเจนครับ และผมยืนยันว่า
เป็นมนุษย์เงินเดือนก็มีโอกาสที่จะมีอิสรภาพทางการเงินเหมือนกัน
แต่ต้องมีความรู้ในการบริหารการเงินเข้าไปด้วย ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่ใช่สิ่งที่ยากเกินความสามารถของทุกคน
เริ่มให้ถูกทิศ
เริ่มจากการวางแผนการหารายได้
รายได้หลักของมนุษย์เงินเดือนมาจากการทำงานในแต่ละเดือนนั่นเอง
ซึ่งสิ่งที่คุณต้องทำก็คือการพัฒนาตัวเองครับ
สิ่งนี้เป็นเสมือนการลงทุนอีกประเภทหนึ่ง ซึ่งสำคัญมากๆ นั่นก็คือ ลงทุนเพื่อสร้างความรู้ความสามารถ
ซึ่งความสามารถที่เพิ่มขึ้น
จะเป็นเหมือนใบเบิกทางในการเพิ่มรายได้ให้แก่ตัวคุณนั่นเอง
ซึ่งวิธีพัฒนาตัวเองมีหลายวิธีครับ เรียนรู้จากเจ้านาย เรียนรู้จากเพื่อร่วมงาน
หรือใช้เวลาว่างอบรมหรือสัมมนาที่เกี่ยวข้องกับงานของตน
ถัดมาก็คือการวางแผนการใช้จ่าย
โดยขอเน้นย้ำว่า คุณควรออมก่อนที่จะใช้จ่ายครับ เพื่อสร้างวินัยที่ดีในการออม
รวมถึงจัดทำบัญชีรายรับรายจ่ายเพื่อสำรวจถึงค่าใช้จ่ายแต่ละประเภทที่เราใช้ไป
เพื่อพิจารณาว่า เราสามารถลดรายจ่ายส่วนใดได้บ้าง
โดยควรควบคุมค่าใช้จ่ายให้เท่ากับเงินได้ที่หักเงินออมไปแล้วนั่นเอง
สิ่งสุดท้ายที่สำคัญที่สุด
นั่นคือ การทำเงินออมให้งอกเงยนั่นเองครับ
ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยให้เหล่ามนุษย์เงินเดือนมีอิสรภาพทางการเงิน
โดยทางเลือกในการทำเงินออมให้งอกเงยนั่นก็คือ การลงทุนนั่นเองครับ ซึ่งปัจจุบันมีทางเลือกในการลงทุนที่หลากหลาย
โดยการลงทุนจากเงินออมนี้จะเป็นการลงทุนในระยะยาวมากๆครับ
พูดง่ายๆก็คือเป็นเงินที่ไว้สร้างสินทรัพย์ที่จะมาสร้าง Passive Income อีกทีนั่นเอง ถึงตรงนี้เราควรวางแผนลงทุนให้ชัดเจนครับ
ว่าจะจัดสรรเงินทุนเท่าไหร่ไปลงทุนในสินทรัพย์อะไรบ้าง หุ้นกี่% พันธบัตรกี่% เงินฝากกี่ % หรือจะเอาหุ้นหมดเลยก้ได้ครับ
เพราะในระยะยาวแล้ว หุ้นสามัยจะให้ผลตอบแทนสูงสุดครับ
โดยถ้าเราทำงานหนักมากจนไม่มีเวลาติดตามข่าวสารการลงทุน
ก็สามารถใช้บริการกองทุนรวมได้ครับ ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผู้เชี่ยวชาญไปเลย
วิธีการลงทุนก็ใช้เป็นแบบ
DCA หรือ Dollar Cost Average โดยการใส่เงินเข้าไปในสินทรัพย์ที่เราเลือกทุกๆเดือนครับ
หากกองทุนหรือสินทรัพย์ที่เราเลือกมานั้นมีพื้นฐานดีแล้วและเป็นการลงทุนในระยะยาว
การลงทุนโดยวิธีนี้จะเป็นวิธีที่ดีที่สุดครับ
เพื่อถัวเฉลี่ยต้นทุนท่ามกลางความผันผวนของตลาดที่เกิดขึ้นตลอด
ติดตาม ปรับปรุง
สิ่งที่อยากฝากไว้ก็คือ
อยากแนะนำให้ทบทวนการลงทุนด้วยครับ อย่างน้อยอาจจะทุกๆครึ่งปีเพื่อดุผลการดำเนินงานของแผนการลงทุนของเรา
พื่อนำข้อบกพร่องมาปรับปรุงการลงทุนให้มีประสิทธิภาพครับ
แค่เพียงเรามีวินัยในการลงทุน
ทำตามแผนที่วางไว้ เท่านี้ก็ลบคำครหาที่ว่า “เป็นมนุษย์เงินเดือนไม่มีวันรวย”
ได้แล้วครับ
ที่มารูปภาพ
https://www.dreamstime.com/stock-illustration-time-passive-income-vector-illustration-business-education-idea-cartoon-image84533039
ที่มารูปภาพ
https://www.dreamstime.com/stock-illustration-time-passive-income-vector-illustration-business-education-idea-cartoon-image84533039
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น